สำหรับนักธุรกิจหน้าใหม่ ที่ต้องการเป็น พาร์ทเนอร์ กับโรงงานจีน แต่เจออุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจทั้งสองฝ่าย อีกทั้งคุณภาพสินค้า และมาตราฐานโรงงานที่กังวล หรือแม้กระทั่งการขนส่ง บอกเลยว่า แต่ละอุปสรรคคือความท้าทายของนักธุรกิจหน้าใหม่ ที่ต้องการทำธุรกิจด้วยเป็นพาร์ทเนอร์กับจีน แต่ถึงอย่างไร ปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้จะหมดไปศึกษาให้ท่องแท้ และอีกวิธีหนึ่งที่กำลังจะบอกเล่าให้ฟัง โดยจะเปลี่ยนเรื่อง”ยาก”ให้กลายเป็นเรื่อง “ง่าย”ในการเป็น พาร์ทเนอร์ กับจีน…คุณพร้อมแล้วหรือยัง?
ก่อนอื่นสำหรับนักธุรกิจหน้าใหม่ คุณต้องสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจในการทำธุรกิจกับพันธมิตรในจีนก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมทางธุรกิจ ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตหรือพันธมิตร รวมถึงความแตกต่างทางด้านกฎหมายและการสื่อสาร และแนวทางที่นักธุรกิจหน้าใหม่สามารถนำไปใช้เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความไว้วางใจในการทำธุรกิจกับจีนได้ไม่ยากเลย
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือการศึกษาวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจจีน ด้วยความที่ประเทศจีนมีวัฒนธรรมทางธุรกิจที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจส่วนบุคคล ก่อนการเจรจาเชิงธุรกิจ การเข้าใจวัฒนธรรมนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพันธมิตรได้ และการแสดงออกเรื่องความสุภาพ ความเคารพ และการรักษาคำพูดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในวงการธุรกิจของประเทศจีน การเจรจาในลักษณะที่เคารพกันและมีความชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจในระยะยาว
และอย่าลืมควรทำการตรวจสอบประวัติและข้อมูลทางธุรกิจของบริษัทเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจและเอกสารการจดทะเบียนบริษัทรวมถึงการขอข้อมูลอ้างอิงจากลูกค้าหรือพันธมิตรรายอื่นที่เคยทำธุรกิจกับบริษัทนั้น หากไม่มั่นใจสามารถใช้บริการเอเจนซี่ตรวจสอบ (Third-party audit) ที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบบริษัทและโรงงานในจีน อีกทั้งยังต้องค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทผ่านทางเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ เช่น Alibaba, Global Sources หรือ Made-in-China ซึ่งบางครั้งมีระบบการตรวจสอบพันธมิตรเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือรวมถึงการใช้บริการตรวจสอบคุณภาพสินค้า (Quality Control) จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ได้รับจะเป็นไปตามมาตรฐาน
ขอแนะนำนักธุรกิจหน้าใหม่ควรเริ่มต้นด้วยข้อตกลงขนาดเล็กๆก่อน หรือคำสั่งซื้อที่ไม่ใหญ่มากจะช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสินค้าไม่ตรงตามที่ต้องการ หรือการส่งสินค้าไม่ตรงตามกำหนด หลังจากนั้นหากคุณได้รับความพอใจจากการทำข้อตกลงขนาดเล็กแล้ว คุณสามารถขยายการร่วมมือกับพันธมิตรจีนในอนาคตได้ เมื่อมีการเจรจาเกิดขึ้นการทำสัญญาที่ชัดเจนและรัดกุมถือว่าสำคัญมากๆ
ไหนจะเรื่องข้อกฎหมายการค้าต่างๆระหว่างประเทศหรือกฎหมายจีน เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาของคุณได้รับการคุ้มครองอย่างถูกต้อง
และถ้าให้ดีการเข้าเยี่ยมชมโรงงานและพบปะพันธมิตรโดยตรงถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้งคู่ และยังทำให้พันธมิตรจีนมองเห็นความตั้งใจจริงของคุณในการทำธุรกิจร่วมกันด้วย ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวกับพันธมิตรจีนเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จในธุรกิจระหว่างประเทศ การปฏิบัติที่โปร่งใส การให้ความสำคัญกับคุณภาพ และการรักษาคำพูดจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือที่ยั่งยืน
คุณสามารถการเป็น พาร์ทเนอร์ กับจีนได้หลายทางดังที่กล่าวต่อไปนี้
1. การเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor Partnership)
2. การเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ (Business Partnership)
3. การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture)
4. การตั้งโรงงานร่วมกัน (Manufacturing Partnership)
5. การจัดซื้อโดยตรง (Direct Sourcing Partnership)
6. การเป็นผู้ให้สิทธิบัตรหรือแฟรนไชส์ (Franchise or Licensing Partnership)
7. การค้าร่วมผ่านอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Partnership)
8. การให้บริการในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsourcing Partnership)
9. การร่วมลงทุนในโครงการ (Investment Partnership)
การเป็นพันธมิตรกับจีนมีค่าใช้จ่ายที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ การขนส่ง และภาษีศุลกากร ซึ่งจะมีหลายด้านที่ควรพิจารณาและจะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ ขนาดของการผลิต และข้อตกลงทางธุรกิจ ด้านล่างคือรายการค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
1. ค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้า
2. ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ
3. ค่าขนส่งและโลจิสติกส์
4. ภาษีนำเข้าและภาษีศุลกากร
5. ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและสัญญา
6. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเยี่ยมชมโรงงาน
7. ค่าธรรมเนียมตัวแทนหรือเอเจนซี่
8. ค่าใช้จ่ายอื่นอาทิ ค่าจัดทำบรรจุภัณฑ์ (Packaging Costs) และหรือค่าธรรมเนียมธนาคารและการโอนเงินระหว่างประเทศ
และในท้ายที่สุดนี้เรามีวิธีแนะนำเพื่อลดความยุ่งยากและลดปัญหาที่ซับซ้อนกับการเป็น partner กับจีน นั่นก็คือ เลือกใช้บริการจากบริษัทตัวแทนหรือเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญในการหาพันธมิตรที่น่าเชื่อถือแบบครบวงจร ที่เค้าดูแลและบริการ คัดสรรโรงงานที่มีมาตราฐาน รวมถึงตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตรงปก และยังจัดการเอกสารต่างๆในการนำเข้าที่ถูกกฎหมายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาแต่อย่างใด อีกทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น Canton Fair ที่เปิดโอกาสให้คุณพบและเจรจาโดยตรงกับผู้ผลิต ซึ่งการเยี่ยมชมโรงงานและการตรวจสอบสินค้าตัวอย่างเป็นวิธีการที่ดีในการสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความน่าเชื่อถือของพันธมิตรนั่นเอง