Categories
Blog

5 ข้อดี นำเข้าสินค้าจากจีนแบบถูกต้อง

5 ข้อดี นำเข้าสินค้าจากจีนแบบถูกต้อง

1. ลดหย่อนภาษีนำเข้าได้เกือบ 0%
เนื่องจากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (Asean-China Free Trade Agreememt หรือ ACFTA) ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และจีน โดยประเทศสมาชิกอาเซียนและจีน จะให้สิทธิพิเศษในการยกเลิกอัตราภาษีภายใต้ ACFTA กว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าหรือประมาณ 8,000 กว่ารายการ โดยฉบับปรุงปรุงล่าสุด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กันยายน 2562 ทำให้การนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยในบางรายการ ไม่ต้องเสียภาษี แต่ผู้นำเข้าต้องมีหลักฐานหรือหนังสือยืนยันถึงการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าหรือที่เรียกว่าใบ Form E ไปแสดงต่อศุลกากรประเทศผู้นำเข้า

2. ต้นทุนน้อย กำไรงาม ยิ่งสั่งเยอะ ยิ่งได้ราคาถูก

สินค้าที่ผลิตในประเทศจีนนั้นมีหลากหลายราคา และคุณภาพหลายระดับ อีกทั้งมีต้นทุนการผลิตที่ไม่แพง โดยเฉพาะหากเป็นสินค้า Made in China ทำให้เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณที่มาก ก็จะได้ราคาสินค้าที่ถูกลง หรือ ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุน จึงคุ้มค่ากับการสั่งซื้อในจำนวนมาก ผู้ประกอบการจึงนิยมเลือกนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อลงทุนทำธุรกิจ

3. มีช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ ไม่ต้องบินไปเองถึงเมืองจีน

การนำเข้าสินค้าจากจีนในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องยากและไม่จำเป็นต้องบินไกลไปเองถึงเมืองจีน เนื่องจากมีช่องทางออนไลน์ให้เลือกสั่งซื้อสินค้าจากจีนได้หลายช่องทางและหลากหลายเว็บไซต์

4. สินค้าจากจีนมีให้เลือกมากมายและมีลักษณะเฉพาะ

โรงงานผลิตสินค้าในจีนมักจะแข่งขันกันผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรมทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมจีนถึงมีสินค้าที่ครอบคลุมเกือบทุกประเภทบนโลกใบนี้

5. ขนส่งทางไกล สะดวกปลอดภัย  มีให้เลือกใช้บริการทั้งทางรถ และทางเรือ

ปัจจุบันการนำเข้าสินค้าจากจีนสามารถขนส่งได้ทั้งทางรถ และทางเรือ การเลือกขนส่งทางรถและทางเรือนั้นจำเป็นต้องพิจารณาจากปริมาณ และ น้ำหนักของสินค้านั้นๆ เช่น การขนส่งทางรถ เหมาะสำหรับสินค้าที่นำเข้ามาในปริมาณไม่มากและต้องการความรวดเร็วในการจัดส่ง ขนส่งทางเรือ เหมาะสำหรับสินค้าที่นำเข้ามาในปริมาณที่มาก และน้ำหนักเยอะ

Categories
Blog

5 วิธี เช็คลิสนำเข้ากับคาร์โก้ ชิปปิ้งจีน

5 วิธี เช็คลิสนำเข้ากับคาร์โก้ ชิปปิ้งจีน

 
จะรู้ได้ยังไงว่า ชิปปิ้งจีน เจ้าไหนดี ดีหรือไม่ดี ต้องดูที่อะไรบ้าง
  1. ค่าใช้จ่าย Shipping จีน ต่างๆ
    1.1 ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการสั่งซื้อ
    1.2 ค่าขนส่งจากโกดังจีน-โกดังไทย และ โกดังไทย-ที่อยู่ของคุณ

     

  2. คุณภาพการบริการ Shipping จีน
    2.1 ประกันสินค้า
    2.2 โปรโมชั่นส่วนลด
    2.3 ความเร็วในการขนส่งทั้งหมดของชิปปิ้ง
    2.4 สภาพสินค้าที่ส่งมาถึงคุณ
    2.5 ช่องทางการติดต่อประสานงาน
    2.6 ความสะดวกในการติดตามสถานะของสินค้า

  3. ความน่าเชื่อถือของ Shipping จีน
    3.1 ตรวจเช็ครีวิวจาก PANTIP
    3.2 ดูคะแนนรีวิวอ่านคอมเม้นต์ลูกค้าใน Facebook ของร้านค้า

ติดต่อส่งของที่จีน

1. ลูกค้าสามารถติดต่อไปที่ 061-996-6663 แจ้งทางเจ้าหน้าที่ว่าต้องการขนส่ง สินค้าจากจีนมาไทย โดยยังไม่เคยเป็นลูกค้ามาก่อน
ทางเจ้าหน้าที่จะสอบถามถึงประเภทของสินค้าที่ทางลูกค้าต้องการส่ง และสอบถามข้อมูลเบื้องต้น เพื่อทำการเสนอราคา
หลังจากแจ้งราคาให้ลูกค้าทราบแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเปิดรหัสให้กับทางลูกค้า
2. Line ID : @tegcargo
3. ผ่านหน้าเว็บไซต์ Tegcargo.com

Categories
Blog

5 สิ่งนำเข้าสินค้าจากจีนต้องระวังอะไรบ้าง

5 สิ่งนำเข้าสินค้าจากจีนต้องระวังอะไรบ้าง

5 สิ่งนำเข้าสินค้าจากจีนต้องระวังอะไรบ้าง

1.สินค้าประเภทลิขสิทธิ์

สินค้าประเภทนี้มักมีการลอกเลียนแบบมากมายโดยเฉพาะในจีน อาจก่อให้เกิดความยุ่งยากในการนำเข้าเพราะต้องมีการปรับเรื่องค่าลิขสิทธิ์อีกด้วย

2.สินค้าประเภทเกี่ยวกับเรื่องเพศ

เซ็กซ์ทอย ตุ๊กตายาง แม้กระทั่งถุงยางอนามัย หากสั่งของเหล่านี้มักจะถูกควบคุมและยึดโดยกรมศุลภากร

3.สินค้าประเภทของมึนเมา

เหล้า บุหรี่ เบียร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนผิดกฎหมายและมีเรื่องภาษีสรรพสามิตเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ หากไม่มีใบอนุญาตควรเลี่ยงสินค้าประเภทนี้

4.สินค้าประเภทอาวุท

แน่นอนที่สุดว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย จึงไม่แนะนำให้นำเข้าสินค้าประเภทนี้

5.สินค้าประเภทยาเสพติด

ทั้งที่เป็นยาเสพติดโดยตรงและสารที่ผลิตยาเสพติด รวมไปถึงพอดหรือบุหรี่ไฟฟ้า

Categories
Blog

เมืองจีนเมืองไหนมีของอะไรน่าสนใจในการสั่งซื้อสินค้า

เมืองจีนเมืองไหนมีของอะไรน่าสนใจในการสั่งซื้อสินค้า

​​ประเทศจีน นอกจากจะเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และประชากรมากที่สุดในโลก ยังเป็นฐานการผลิตสำคัญของสินค้าทั่วโลกอย่างเช่นรถยนต์ Tesla นอกจากนี้ยังมีเมืองธุรกิจอันเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ ๆ ตอกย้ำศักยภาพของแดนมังกรแห่งนี้ว่ามีการพัฒนาสายการผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง จนคุณภาพสินค้าไม่ต่างจากการผลิตในประเทศอื่นเลยทีเดียว อีกทั้งในเดือนนี้ประเทศจีนจะมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทาง โอกาสนี้เราจึงรวบรวม 4 เมืองดาวรุ่งที่โดดเด่นทั้งด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด


กว่างโจว – ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมจีนตอนใต้

 
เริ่มต้นกับกว่างโจว เมืองการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในจีน เพราะ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของจีนตอนใต้ และ มีระบบอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมกับเมืองในบริเวณใกล้เคียง ในกว่างโจวนั้นมีหลากหลายจากการเป็นที่ตั้งของโรงงานกว่า 1,000 แห่ง และ ตลาดมากมาย จึงมีสินค้าภายในเมืองหลากหลาย เช่น
    • เสื้อผ้า เครื่องหนัง
    • เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว โคมไฟ
    • ของเล่น 
    • โรงงานเซรามิก
    • โรงงาน LED
 
รูปงาน Canton Fair
Photo Credit :the canton fair china
 
 
 

เซินเจิ้น – ศูนย์กลางฮาร์ดแวร์ของโลก

 
เซินเจิ้น มหานคร และ ศูนย์กลางของฮาร์ดแวร์โลก โดยผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของโลกกว่า 90% มาจากที่แห่งนี้ โดยภายในเมืองนั้นมีถนนการค้า Huaqiangbei ที่มีตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงมากมาย มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
    • Huaqiang Electronic World
    • SEG Electronic Market
    • Yuanwang Digital Mall 
 
นอกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว เมืองเซินเจิ้นยังมีแหล่งช้อปปิ้งมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ตลาดตงเหมิน เป็นตลาดเก่าแก่กว่า 300 ปี ที่มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายคุณภาพดีให้เลือกสรร หรือ ย่านหลัวหู ย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่คึกคัก และ เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ 
 
 

รูปงาน China International Gifts, Handicrafts, Watches & Houseware Fair
Photo Credit : china gifts fair​
 
 
 
 

เซี่ยงไฮ้ – เมืองแห่งตลาดค้าส่ง และศูนย์กลางการนําเข้าและส่งออก

 
เมืองการค้าที่สำคัญของจีน จะขาดเมืองเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ เพราะ เป็นหนึ่งในท่าเรือการค้าที่สำคัญที่สุดในโลก เป็นจุดศูนย์กลางของการนำเข้า และ ส่งออกทางเรือเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเมืองเซี่ยงไฮ้นี่เองนี่เป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าของ Tesla ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีตลาดสำคัญที่มีสินค้ามากมายหลายชนิด เช่น 
    • Qipu Market ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ 
    • South Bund Market ตลาดผ้าไหมที่มีชื่อเสียง
    • Yunzhou Market ตลาดของเก่า
    • Auto China Parts ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำ ที่ส่งออกไปทั่วโลก
 
 
 
 
สำหรับอีกที่ที่อยากแนะนำ คือ สวนอี้หยวน (Yu Yuan Garden) เป็นสวนขนาดใหญ่ถึง 20,000 ตารางเมตร ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สวนชั้นนอก และ สวนชั้นใน โดยชั้นนอกจะแป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก ที่มีทั้งร้านขนม น้ำชา ร้านขายของที่ระลึก ตลอดจนเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า และ แบรนด์ที่คุ้นเคยอย่าง H&M หรือ Starbucks โดยทุกร้านจะถูกดีไซน์ให้ออกมาเป็นตึกจีน ทำให้ดูกลมกลืนและสวยงามเป็นอย่างมาก
 
 
ส่วนสวนชั้นในจะเป็นสวนที่สงบต่างกับชั้นนอกอย่างชัดเจน ประกอบด้วยต้นไม้อายุนับร้อยปี สะพานไม้ สระน้ำ สวนไผ่ และ บ่อปลาคาร์ฟ เป็นบรรยากาศอันแสนร่มรื่นที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนคลาย สมชื่อ Yu Yuan ที่แปลว่าสวนแห่งความสำราญใจ
 

รูปงาน China International Import Expo
Photo Credit : en.prnasia
 
 
 

หนิงโป – ผู้นําด้านการผลิตเครื่องจักรพลาสติก

 
หนิงโปเป็นเมืองในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโรงแรม และ บริษัทการค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลางจำนวนมาก แต่สิ่งที่ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียง คือ เรื่องของพลาสติก เพราะ เครื่องจักรพลาสติกกว่าครึ่งหนึ่งของโลกถูกผลิตขึ้นที่นี่ และ เป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของจีน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ภายในบ้าน เครื่องเขียน ชิ้นส่วนรถยนต์ แม่พิมพ์ ฯลฯ
 
 
นอกจากนี้แม้จะไม่ใช่ในเมืองหนิงโป แต่มลฑลเจ้อเจียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามที่พลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบเฉียนเตา หรือ ทะเลสาบพันเกาะ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศจีน ที่ประกอบด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยกระจายโดยรอบที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์เพื่อเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่สำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ แต่นอกจากจะนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้แล้ว ยังส่งผลดีด้านการท่องเที่ยว เพราะ น้ำของทะเลสาบขึ้นชื่อเรื่องความใส ล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวชอุ่มที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
 

รูปงาน China International Machine Tool Equipment Exhibition
Photo Credit : cimt show
 
 
เมืองเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น ประเทศจีนยังมีเมืองแห่งการค้า และ ฐานการผลิตสำคัญอีกมากมาย จึงไม่แปลกว่าทำไมประเทศจีนเป็นศูนย์กลางของการผลิตภัณฑ์สินค้า และ เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ด้วยศักยภาพต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้ประเทศจีนยังคงเป็นประเทศที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจอยู่เสมอนั่นเอง
Categories
Blog

การนำเข้า Door to Door “ทางทะเล”

การนำเข้า Door to Door "ทางทะเล"

นำเข้า Door to Door ทางทะเล

บริการสั่งของจากจีนครบวงจร ขนส่งด่วนที่สุด 12-18 วัน จากจีนถึงไทย ส่งตรงถึงหน้าบ้าน พร้อมผู้ดูแลส่วนตัว สามารถสั่งซื้อสินค้า พร้อมระบบติดตามพัสดุ อำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างสองประเทศเส้นทางการขนส่งทางทะเล ค่าขนส่งเรีมต้น 10 บาทต่อกิโลกรัม

โกดังเปิดให้บริการ : กว่างโจว ,อี้อู ,เซิ้นเจิ้น ,ซัวเถา

ขนส่งทางทะเล คือ ขนส่งทางเรือ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ สะดวก คล่องตัว ง่าย สินค้าไม่เสียหาย บริการพิธีการศุลกากรและแพ็คเกจภาษีแบบ door-to-door ปลอดภัย รวดเร็ว ง่ายและสะดวก ส่งฟรีในตัวเมืองกรุงเทพ

ระยะเวลาในการขนส่งจีน-ไทย : 12-18 วันทำการ พัสดุจะถูกจัดส่งผ่านคลังสินค้าของกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ หลังจากชำระเงิน 1-2 วันทำการสำหรับการนัดวันจัดส่ง จัดส่งผ่านทางขนส่งร่วมให้บริการของบริษัทฯ J&T / IT Transport / นิ่มซีเส็ง และอื่นๆ

วันและเวลานัดรับพัสดุ : วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 9.00-18.00 น. (โกดังปิดทุกวันอาทิตย์)

แจ้งลูกค้า :

  1. สินค้าจะต้องถูกส่งไปยังคลังสินค้ากว่างโจว หากต้องการให้เข้ารับสินค้าหน้าโรงงานกรุณาติดต่อ WeChat : tegcargo
  2. หากสินค้าที่ส่งไม่สอดคล้องกับรายละเอียดจะถูกแจ้งความเท็จ ยึด หรือริบโดยศุลกากรหรือของปลอมสินค้าไม่ได้รับการแจ้งเกิดจากความรับผิดทางกฎหมายและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ภาระเพิ่มเติมคือความรับผิดชอบของลูกค้า
  3. หลังจากสินค้ามาถึงกรุงเทพฯ คลังสินค้าของเราจะจัดส่งภายในระยะเวลา 3 วันนับจากวันทีมาถึง หากเกิน 3 วัน จะมีการเรียกเก็บค่าเช่าโกดังสินค้าบางรายการสำหรับการขนส่งแต่ละครั้ง ค่าธรรมเนียม (การเจรจากับเจ้าหน้าทีบริการลูกค้า)

ผลิตภัณฑ์การขนส่งหลัก : เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ความงาม ยานพาหนะไฟฟ้า อาหาร เครื่องสำอางค์ วัสดุยา ของเล่นและของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างและฮาร์ดแวร์ แบตเตอรี่ลิเธียม แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้า โคมไฟ LED อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ ฯลฯ

สามารถตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของคุณ

Categories
Blog

การนำเข้า Door to Door “ทางบก”

การนำเข้า Door to Door "ทางบก"

นำเข้า Door to Door ทางบก

บริการส่งของจากจีนครบวงจร ขนส่งด่วนที่สุด 4-7 วัน จากจีนถึงไทย ส่งตรงถึงหน้าบ้าน พร้อมผู้ดูแลส่วนตัว สามารถสั่งซื้อสินค้า พร้อมระบบติดตามพัสดุ อำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างสองประเทศเส้นทางการขนส่งทางบก ค่าขนส่งเริ่มต้น 20 บาทต่อกิโลกรัม

โกดังเปิดให้บริการ : กว่างโจว ,อี้อู ,เซิ้นเจิ้น ,ซัวเถา

ขนส่งทางบก คือ การขนส่งทางรถบรรทุก ซึ่งมีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ และง่ายกว่า ในระยะเท่ากัน และ สะดวกกว่า คล่องตัวกว่าถ้าเทียบกับการขนส่งทางทะเล บริการพิธีการศุลกากรและแพ็คเกจภาษีแบบ door-to-door ปลอดภัย รวดเร็ว ง่ายและสะดวก ส่งฟรีในตัวเมืองกรุงเทพ

ระยะเวลาในการขนส่งจีน-ไทย : 4-7 วันทำการ พัสดุจะถูกจัดส่งผ่านคลังสินค้าของกรุงเทพฯไปยังจังหวัดต่างๆ หลังจากชำระเงิน1-2วันทำการสำหรับการนัดวันจัดสั่ง จัดส่งผ่านทางขนส่งร่วมให้บริการของบริษัทฯ J&T / IT Transport / นิ่มซีเส็ง และอื่นๆ

วันและเวลานัดรับพัสดุ : วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 9.00-18.00 น. (โกดังปิดทุกวันอาทิตย์)

แจ้งลูกค้า :

  1. สินค้าจะต้องถูกส่งไปยังคลังสินค้ากว่างโจว หากต้องการให้เข้ารับสินค้าหน้าโรงงานกรุณาติดต่อ WeChat : tegcargo
  2. หากสินค้ที่ส่งไม่สอดคล้องกับรายละเอียดจะถูกแจ้งความเท็จ ยึด หรือริบโดยศุลกากรหรือของปลอมสินค้าไม่ได้รับการแจ้งเกิดจากความรับผิดทางกฎหมายและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ภาระเพิ่มเติมคือความรับผิดชอบของลูกค้า
  3. หลังจากสินค้ามาถึงกรุงเทพฯ คลังสินค้าของเราจะจัดส่งภายในระยะเวลา 3 วัน นับจากวันที่มาถึง หากเกิน 3 วัน จะมีการเรียกเก็บค่าเช่าโกดังสินค้าบางรายการสำหรับการขนส่งแต่ละครั้ง ค่าธรรมเนียม (การเจรจากับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า)

ผลิตภัณฑ์การขนส่งหลัก : เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ความงาม ยานพาหนะไฟฟ้า อาหาร เครื่องสำอางค์ วัสดุยา ของเล่นและของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างและฮาร์ดแวร์ แบตเตอรี่ลิเธียม แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้า โคมไฟ LED อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ ฯลฯ

สามารถตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของคุณ

Categories
Blog

นำเข้าพร้อมออกหนังสือ Form E

นำเข้าพร้อมออกหนังสือ Form E

นำเข้าพร้อมออกหนังสือ Form E ทางบก แบบ LCL

บริการส่งของจากจีนครบวงจร ขนส่งด่วนที่สุด 4- 7 วัน จากจีนถึงไทย ส่งตรงถึงหน้าบ้าน พร้อมผู้ดูแลส่วนตัว สามารถสังซื้อสินค้า พร้อมระบบติตตามพัสดุ อำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างสองประเทศเส้นทางการขนส่งทางบก ค่าขนส่งเริ่มต้น 19 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมออกเอกสารหนังสือ Form E

Form E คือ เป็นหนึ่งในประเภทของหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าหรือหนังสือแสดงสัญชาติของสินค้าว่ามีการผลิตและส่งออกจากสมาชิกประเทศในเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน หรือ ASEAN-China Free Trade Area (ACFTA) เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีนำเข้า

โกดังเปิดให้บริการ : กว่างโจว ,อี้อู ,เซิ้นเจิ้น ,ซัวเถา

TEG Cargo เราเป็นบริษัทชิปปังผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนแบบถูกกฎหมาย สามารถออกใบขนสินค้าขาเข้า และ รับจัดทำ Form E พร้อมใบกำกับภาษีครบถ้วนถูกต้อง เอกสารทุกใบดำเนินการในชื่อของผู้นำเข้าทั้งหมด ทำให้ใช้เป็นหลักฐานในการแสตงต่อศุลกากรและสรรพากรหากถูกตรวจสอบย้อนหลัง ขนส่งทางรถแบบไม่เต็มตู้จากจีนมาไทย 3-5 วัน พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ ด้วยเรทค่าขนส่งเพียง 19 บาท/กก.

แจ้งลูกค้า :

สินค้าจะต้องถูกส่งไปยังคลังสินค้ากว่างโจว หากต้องการให้เข้ารับสินค้าหน้าโรงงานกรุณาติดต่อ Line : @tegcargo

หากสินค้าที่ส่งไม่สอดคล้องกับรายละเอียด จะถูกแจ้งความเท็จ ยึด หรือริบโดยศุลกากรหรือ ของปลอม สินค้าไม่ได้รับการแจ้ง เกิดจากความรับผิดทางกฎหมาย และสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ภาระเพิ่มเติมคือความรับผิดชอบของลูกค้า

หลังจากสินค้ามาถึงกรุงเทพฯ คลังสินค้าของเราจะจัดส่งภายในระยะเวลาตามวันนับจากวันที่มาถึง หากเกิน 3 วัน จะมีการเรียกเก็บค่าเช่าโกดังสินค้าบางรายการสำหรับการขนส่งแต่ละครั้ง ค่าธรรมเนียม (การเจรจากับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า)

ผลิตภัณฑ์การขนส่งหลัก : เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ความงาม ยานพาหนะไฟฟ้า อาหาร เครื่องสำอางค์ วัสดุยา ของเล่นและของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างและฮาร์ดแวร์ แบตเตอรี่ลิเธียม แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้า โคมไฟ LED อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ ฯลฯ

สามารถตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของคุณ

Categories
Blog

รู้ทัน! “ภาษีนำเข้า” นำเข้าสินค้าอย่างไรให้ปลอดภาษี

รู้ทัน! "ภาษีนำเข้า" นำเข้าสินค้าอย่างไรให้ปลอดภาษี

อยากนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ไม่อยากจ่ายภาษีแพง รวมถึงนักช้อปที่สั่งซื้อสินค้าและนักหิ้วทั้งหลาย ต้องเข้าใจเรื่อง “ภาษีนำเข้า” อยากนำเข้ามาแบบปลอดภาษีมีวิธีไหม? หรือหากต้องเสียภาษีก็ให้เสียภาษีน้อยที่สุด ต้องทำอย่างไร

ธุรกิจค้าขายตั้งแต่ของกินเรื่อยไปถึงของใช้จำเป็น และสินค้าฟุ่มเฟือย ล้วนมีให้เลือกซื้อแบบหลากหลาย อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าก็สรรหาสินค้าถูกและดี มีคุณภาพมาให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจ ทั้งที่ผลิตในประเทศไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ

แต่ต้องยอมรับว่า “สินค้านำเข้า” ย่อมมีราคาสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เนื่องจากต้องบวกภาษีนำเข้าด้วย จึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องหาวิธีการนำเข้าแบบเสียภาษีน้อยที่สุด

ตลอดจนผู้บริโภคหลายรายที่มีโอกาสไปต่างประเทศก็เลือกหิ้วเข้ามาเองเป็นของใช้ส่วนตัว หรือฝากเพื่อนฝูงที่ไปหรืออยู่ต่างประเทศแล้วกำลังจะกลับมาประเทศไทยหิ้วเข้ามาฝาก หรือส่งกลับมาให้ก็มีเสียภาษีมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่วิธีที่เลือกใช้

 

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ว่าใครที่ต้องการนำเข้าสินค้า สามารถนำเข้ามาแบบปลอดภาษีได้ หรือหากต้องเสียภาษีก็ให้เสียภาษีน้อยที่สุด โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

  • หลักการเก็บภาษีนำเข้า

ภาษีนำเข้า คือ ภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากผู้นำสินค้าเข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านพิธีการศุลกากร ไม่ว่าจะนำเข้ามาทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศก็ตาม เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ โดยกรมศุลกากรมีหน้าที่จัดเก็บภาษีขาเข้า-ขาออกและภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น สินค้านำเข้าจะต้องเสียภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยสินค้าแต่ละประเภทจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันหรือเรียกว่าพิกัดภาษี เพื่อปกป้องการค้าภายในประเทศ ให้ราคาสินค้านำเข้าสูงกว่า ทำให้สินค้าที่เหมือนกันในประเทศยังพอดำเนินการต่อไปได้

  • องค์ปะกอบของภาษีนำเข้า

1.ภาษีนำเข้า หรืออากรขาเข้า หรือภาษีนำเข้าส่งออก กรมศุลกากรมีหน้าที่จัดเก็บ

2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อมีการนำสินค้าเข้ามาในประเทศไทย ทางกรมศุลกากรจะต้องเก็บและนำส่งให้กับกรมสรรพากร โดยรัฐจะกำหนดนโยบายว่าจะเก็บภาษีนำเข้าเท่าไร และบวก VAT 7% เข้าไปด้วย

  • นำเข้าโดยหิ้วสินค้าเข้าไทย

โดยปกติสำหรับการนำเข้าสินค้าโดยอาศัยเป็นของติดตัวเมื่อเข้ามาในประเทศไทย เมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย หลังจากตรวจพาสปอร์ตและรับกระเป๋าเดินทางแล้ว หาก ไม่มีสินค้าต้องสำแดง ให้เข้าช่องตรวจสีเขียว (Nothing to Declare) แต่ถ้า มีสินค้าต้องสำแดง จะต้องเดินเข้าช่องตรวจสีแดง (Goods to Declare) เพื่อเสียภาษีอากร ซึ่งมีเงื่อนไขในการเสียภาษีนำเข้าคือ

ของใช้ส่วนตัวที่มีมูลค่ารวมทั้งหมดเกิน 20,000 บาท ไม่ว่าจะเพื่อใช้เองหรือไม่ได้ใช้เองก็ตาม แต่ถ้าหากเป็นสิ่งของที่นำไปจากประเทศไทย จะไม่ถูกนำมาคิดมูลค่าหากมีการสำแดงไว้ก่อนเดินทางไป

– สิ่งของที่มีลักษณะทางการค้า แม้จะมีมูลค่าต่ำกว่า 20,000 บาท

– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่า 1 ลิตร

บุหรี่เกินกว่า 200 มวน

ซิการ์หรือยาเส้นเกินกว่า 250 กรัม

ของต้องจำกัด คือ ของที่ต้องมีใบอนุญาต เช่น ยาและอาหารเสริม เครื่องสำอาง สัตว์เลี้ยง อาวุธปืน พืช อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดรน

  • วิธีการคำนวณภาษีนำเข้า

สูตรการคำนวณภาษีนำเข้าสำหรับหิ้วสินค้าเข้ามาเอง สามารถแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ

1.อากรขาเข้า = ราคาสินค้า x อัตราภาษีขาเข้า
2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม = (ราคาสินค้า + อากรขาเข้า) x อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 
3.ภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ = อากรขาเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ตัวอย่างเช่น กรณีซื้อกระเป๋าชาเนล ราคา 30,000 บาท จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย แม้จะเป็นของใช้ส่วนตัว แต่มีมูลค่าเกิน 20,000 บาท จึงต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีนำเข้าดังนี้

1.อาการขาเข้า (6,000) = ราคาสินค้า 30,000 x อัตราภาษีขาเข้ากระเป๋า (20%)
2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม (2,520) = (ราคาสินค้า 30,000 + อาการขาเข้า 6,000) x ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
3.รวมภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ คือ อากรขาเข้า 6,000 + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,520 = 8,520 บาท

  • นำเข้าโดยใช้บริการขนส่ง

สำหรับผู้ที่รักการ shop สินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ โดยทั่วไปแล้วภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มจะไม่รวมอยู่ในราคาของสินค้าที่สั่งซื้อ และอาจไม่รวมอยู่ในค่าจัดส่งที่จ่ายให้กับผู้ค้าปลีกออนไลน์ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นการเฉพาะ

ดังนั้น จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สั่งซื้อถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า เมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทย ซึ่งลักษณะการนำเข้าโดยใช้บริการขนส่ง มีรูปแบบการนำเข้าอยู่ 2 รูปแบบ และมีวิธีการคำนวณภาษีนำเข้าดังนี้

1.นำเข้าสินค้าทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศผ่าน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

การนำเข้าผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทยค่าส่ง จำกัด ค่าส่งจะถูกลง โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะตรวจคัดแยกสิ่งของที่ส่งทางไปรษณีย์ที่ได้เปิดถุงแล้วออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.1 ของยกเว้นอากร หมายถึงของที่นำเข้าโดยทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ซึ่งแต่ละรายต้องมีราคาค่าขนส่งและค่าประกันภัยไม่เกิน 1,500 บาท หรือตัวอย่างสินค้าที่ใช้ได้เพียงเป็นตัวอย่าง และไม่มีราคาในทางการค้า และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด (ของที่ต้องขออนุญาตก่อนนำเข้า) จึงนำส่งบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำจ่ายต่อไป

1.2 ของต้องชำระอากร หมายถึงของที่นำเข้าโดยทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ซึ่งส่งจากผู้ส่งคนหนึ่งถึงผู้รับคนหนึ่งในคราวเดียวกัน หรือเข้ามาถึงพร้อมกัน ไม่ว่าจะมีจำนวนกี่หีบห่อ หากมีราคา FOB (ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายพิธีการส่งออก ส่วนผู้ซื้อเป็นผู้ทำสัญญาการขนส่งและจ่ายค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทาง) รวมกันไม่เกิน 40,000 บาท

และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด หรือของที่ต้องส่งตัวอย่างวิเคราะห์สินค้าก่อนปล่อย ให้พนักงานศุลกากรเปิดตรวจและประเมินอากรแล้วส่งมอบบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำจ่ายให้ผู้รับและเรียกเก็บภาษีอากรแทนกรมศุลกากร

1.3 ของอื่นๆ นอกจากของยกเว้นอากรและของต้องชำระอากร ให้ส่งมอบแก่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งมอบเข้าเก็บรักษาในโรงพักสินค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือส่งไปที่สำนักงาน/ด่านศุลกากรแล้วแต่กรณี เพื่อปฏิบัติพิธีการศุลกากรให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไป

2.นำเข้าสินค้าโดยผ่านผู้ประกอบการของเร่งด่วน (DHL : Express Consignment)

การนำเข้าโดยผ่านผ่านผู้ประกอบการของเร่งด่วน หรือ DHL นั้น ทางกรมศุลกากรเป็นผู้รับผิดชอบการขนส่งเข้ามาในหรือนำออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีผู้ประกอบเร่งด่วน เช่น Fed Ex UPS DHL และ TNT โดยสิ่งของเร่งด่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ สามารถจัดแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

2.1 เอกสารที่ไม่ต้องเสียอากร ตามภาค 2 พิกัดอัตราอากรขาเข้า และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำจัด เนื่องจากสินค้าเป็นเอกสารซึ่งไม่ต้องเสียอากร ทำเพียงสำแดงข้อมูล รายละเอียดของสินค้าและประเภทพิกัดตามชนิดของที่มีมูลค่ารวมมากที่สุด

2.2 ของไม่ต้องเสียอากร หรือของที่ได้รับยกเว้นอากร ซึ่งมีดังนี้

– ของที่ไม่ต้องเสียอากรตามภาค 2 พิกัดอัตราอากรขาเข้า และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด

– ของนำเข้าซึ่งแต่ละรายมีราคา CIF (ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายพิธีการส่งออก รวมทั้งทำสัญญาการขนส่ง จ่ายค่าขนส่งสินค้าจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทาง) ไม่เกิน 1,500 บาท ได้รับยกเว้นอากร และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด

– เป็นเพียงตัวอย่างสินค้าที่ใช้ได้แต่เพียงเป็นตัวอย่าง และไม่มีราคาในทางการค้า ได้รับยกเว้นอากรและไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด

2.3 ของต้องเสียอากร เป็นของที่เข้าทางสนามบินศุลกากรโดยแต่ละใบตราสินค้าทางอากาศ (House Air Waybill) มีราคา FOB ไม่เกิน 40,000 บาท และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด หรือของที่ได้รับยกเส้นอากรตามภาค 4 หรือของที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร หรือของที่ต้องส่งตัวอย่างวิเคราะห์สินค้าก่อนปล่อย

  • วิธีคำนวณภาษีนำเข้า CIF

ราคาที่ใช้คิดภาษีนำเข้า คือ CIF ซึ่งประกอบด้วย C = ราคาสินค้า I = ประกันภัย และ F = ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีสูตรการคิดภาษีนำเข้าสินค้า คือ

ภาษีนำเข้า = CIF x อัตราภาษีนำเข้า (พิกัดภาษีศุลกากร)

ภาษีมูลค่าเพิ่ม = (CIF + ภาษีนำเข้า) x 7%

กรณีที่บัญชีราคาสินค้าระบุรายละเอียดค่าประกันภัย และค่าขนส่งของครบแล้ว ให้ใช้ราคาตามบัญชีราคาสินค้านั้น แต่หากไม่มีรายละเอียดค่าประกันภัยและค่าขนส่งของ ให้บวกค่าประกันภัยอีกร้อยละ 1 ของราคา FOB และให้คิดค่าขนส่งของโดยใช้อัตราเฉลี่ยค่าขนส่งของตามพิกัดที่ศุลกากรอนุมัติให้ใช้สำหรับสินค้าเร่งด่วน และสำแดงข้อมูลรายละเอียดของสินค้า และประเภทพิกัด ตามชนิดของที่มีมูลค่ารวมมากที่สุดในใบตราส่งนั้น

  • เทคนิคนำเข้าให้ปลอดภาษี

ดังนั้น ในกรณีที่นำเข้าสินค้าโดยการหิ้วเข้ามาเอง ควรพยายามอย่าให้สินค้าเกินเกณฑ์ที่กรมศุลกากรกำหนดในการนำเข้า เช่น ของใช้ส่วนตัวมูลค่ารวมทั้งหมดต้องไม่เกิน 20,000 บาท หรือเป็นของที่นำเข้ามาไม่อยู่ในลักษณะทางการค้า เช่น ซื้อกระเป๋าจำนวนมากแม้มูลค่ารวมจะไม่ถึง 20,000 บาท แต่ก็เข้าข่ายจะซื้อมาเพื่อการค้าขายก็ต้องเสียภาษีนำเข้า

ส่วนการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศผ่านบริการขนส่ง สินค้านำเข้าที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ต้องเป็นของซึ่งแต่ละหีบห่อมีราคารวมค่าขนส่งและค่าประกันภัยไม่เกิน 1,500 บาท หรือตัวอย่างสินค้าที่ใช้ได้เพียงเป็นตัวอย่าง และไม่มีราคาในทางการค้า และไม่เป็นของต้องห้ามหรือต้องกำกัด เป็นของยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยหลักการสั่งซื้อของนำเข้าสามารถทำได้คือ สั่งของรวมทั้งหมดแล้วอย่าให้เกิน 1,500 บาท และพยายามสั่งของประเภทเดียวกัน เพราะอัตราภาษีที่ต้องเสียขึ้นอยู่กับพิกัดที่กฎหมายกำหนด ซึ่งพิกัดอัตราศุลกากรแตกต่างกันตามประเภทสินค้า

———————————–

 
Categories
Blog

มือใหม่หัดนำเข้าต้องเตรียมตัวอย่างไร

มือใหม่หัดนำเข้าต้องเตรียมตัวอย่างไร

การนำเข้าสินค้าจีนต้องใช้ระยะเวลา ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการสั่ง การส่ง เพื่อให้ธุรกิจของเราไม่มีสะดุด เรามาวางแผนการนำเข้า โดยเริ่มจากทำความเข้าใจขั้นตอนการนำเข้าต่อไปนี้
1. สมัครใช้บริการนำเข้าสินค้าจากจีน
ก่อนอื่นเราต้องมีรหัสลูกค้าหรือบัญชีสมาชิกกับบริษัทตัวแทนนำเข้าสินค้าจากจีนก่อน เพื่อให้สามารถสั่งสินค้าไปส่งที่โกดังของตัวแทนนำเข้าได้นั่นเอง
2. เลือกสินค้าคุณภาพดีจากโรงงานหรือร้านที่เชื่อถือได้
3. แจ้งที่อยู่โกดังของบริษัทนำเข้าเพื่อให้ร้านค้าส่งของมาตามที่อยู่
ส่วนใหญ่จะเป็นโกดังหรือคลังสินค้าของตัวแทนที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน เมื่อสินค้ามาส่งเราจะได้รับแจ้งจากทางบริษัทนำเข้าอีกครั้ง
4. ตัวแทนนำเข้าส่งสินค้าจากจีนมาไทย
เมื่อสินค้าของเราส่งมาที่โกดังแล้ว ตัวแทนนำเข้าจะดำเนินการส่งสินค้ามายังประเทศไทยเพื่อส่งต่อให้เราอีกครั้ง โดยต้องผ่านทั้งขั้นตอนการส่งออกสินค้า การขนส่ง (ทางรถหรือทางเรือ) การนำเข้าและพิธีศุลกากร ขั้นตอนเหล่านี้ตัวแทนนำเข้าจะดำเนินการแทนเราหมดทุกอย่าง ทั้งสะดวกและรวดเร็ว
5. รอรับสินค้า

TEG CARGO (Thai Express Global Cargo) บริการนำเข้าสินค้าจากจีน ชิปปิ้งจีน-ไทย สั่ง ส่ง ง่าย ครบวงจร

  • รวมภาษี ส่งตรงถึงหน้าบ้าน
  • รับจัดหา สั่งซื้อ เดินตลาดขายส่ง
  • ทางรถ 4-6 วัน เริ่มต้นกิโลละ 20 บาท
  • ทางเรือ 12-20 วัน เริ่มต้นกิโลละ 10 บาท
  • อะไรก็ส่งได้ สั่งง่าย ส่งไว TEG CARGO

 

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่

บริษัท ไทย เอ็กซ์เพรส โกลบอล คาร์โก้ จำกัด

เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 9.00-18.00 น.

เบอร์โทร : 061-996-6663

อีเมล : sale@tegcargo.com

เว็บไซต์ : https://www.tegcargo.com

Line : @TEGCARGO

Wechat : TEGCARGO

Categories
Blog

ค่าใช้จ่าย Local Charge ที่ผู้นำเข้าต้องจ่าย

ค่าใช้จ่าย Local Charge ที่ผู้นำเข้าต้องจ่าย

Local Charge คือ ค่าธรรมเนียมการให้บริการของสายเรือ และท่าเรือ มีค่าใช้จ่ายดังนี้
✨Terminal Handling Charge หรือ THC ค่าใช้จ่ายนี้จะถูกเรียกเก็บจากการใช้ท่าเรือ เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการ ขนถ่ายสินค้าทั้งต้นทางและปลายทาง ได้แก่ การใช้เครนที่เรียกว่า Top คือ ค่าภาระ , ค่าลากตู้สินค้า
✨Container Freight Station หรือ CFS ค่าใช้จ่ายตัวนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้พื้นที่เปิดตู้เพื่อถ่ายสินค้าออกในท่าเรือ เช่น ในกรณี LCL ที่ต้องใช้พื้นที่ในท่าเรือเพื่อทำการขนถ่ายสินค้าของผู้ประกอบการนำเข้าหลาย ๆ ราย ออกจากตู้คอนเทนเนอร์ แล้วลำเลียงสินค้าเข้าโกดัง เพื่อทำการเคลียร์สินค้า เป็นต้น
✨Status หรือ STS ค่าใช้จ่ายนี้จะเกิดในกรณี LCL เท่านั้นนะครับ เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการทำเอกสาร ในการเปลี่ยนสถานะตู้ของสายเรือจาก CYเป็น CFS
✨Facility หรือ FAC ค่าใช้จ่ายนี้จะเกิดก็ต่อเมื่อ สินค้าจำเป็นต้องมีการขนย้ายด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆเช่น รถบรรทุก,หรือการใช้คนงานต่างๆ
✨Port Congestion Surcharge หรือ PCS เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการที่ท่าเรือมีเรือบรรทุกสินค้าเข้ามามาก จนทำให้ท่าเรือหนาแน่น เป็นเหตุให้เอาของลงจากเรือไม่ได้ตามปกติ จึงเกิดจากความล่าช้า ทำให้เรือต้องจอดนานหรือต้องเร่งเอาตู้ลงจากเรือ
✨Handling หรือ H/L, ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก เหมือนค่าจ้างทำงาน
✨Delivery Order หรือ D/O เอกสาร ใช้สำหรับใช้ในขั้นตอนตรวจปล่อยสินค้าตัวนี้เป็นค่าบริการของสายเรือเรียกเก็บ
ค่าใช้จ่าย Local charge อื่น ๆ
✨Currency Adjustment Factor หรือ CAF ค่าความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
✨Wharfage ค่าใช้จ่ายในท่าเรือคล้าย ๆ ค่า Facility
✨Bunker Adjustment Factor หรือ BAF ค่าความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าน้ำมัน

 

TEG CARGO (Thai Express Global Cargo) บริการนำเข้าสินค้าจากจีน ชิปปิ้งจีน-ไทย สั่ง ส่ง ง่าย ครบวงจร

  • รวมภาษี ส่งตรงถึงหน้าบ้าน
  • รับจัดหา สั่งซื้อ เดินตลาดขายส่ง
  • ทางรถ 4-6 วัน เริ่มต้นกิโลละ 20 บาท
  • ทางเรือ 12-20 วัน เริ่มต้นกิโลละ 10 บาท
  • อะไรก็ส่งได้ สั่งง่าย ส่งไว TEG CARGO

 

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่

บริษัท ไทย เอ็กซ์เพรส โกลบอล คาร์โก้ จำกัด

เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 9.00-18.00 น.

เบอร์โทร : 061-996-6663

อีเมล : sale@tegcargo.com

เว็บไซต์ : https://www.tegcargo.com

Line : @TEGCARGO

Wechat : TEGCARGO